วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559

นั่งสมาธิแล้ว มีความสุขอย่างไร



     ดิฉันนั่งสมาธิตลอดต่อเนื่องมา 10 ปีกว่า ดิฉันรู้สึกได้ถึงความสงบ ความนิ่ง ซึ่งอยู่ในความเงียบเหมือนเรานั่งอยู่คนเดียว เสียงรอบข้างไม่สามารถเข้ามารบกวนเราได้เลย ดิฉันรับรู้ได้ถึงแสงสว่าง
สีนวลๆ ไม่แสบตาอยู่รอบตัว ร่างกายเบาสบาย รู้สึกผ่อนคลาย...ความเหนื่อยล้าหายเป็นปลิดทิ้ง

     จากคนใจร้อน ก็ทำให้ใจเย็นลงได้อย่างน่าอัศจรรย์ อาการของคนมักโกรธ ก็หายไปจากสภาวะ
ของใจ อารมณ์แจ่มใส ความเครียดก็ลดลง สุขภาพร่างกายก็แข็งแรงขึ้น จากเมื่อก่อนป่วยบ่อยมาก

หากเรานั่งสมาธิมานาน เราจะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ด้วยตัวของเราเอง
* ด้านสุขภาพจิต คือ ส่งเสริมให้คุณภาพของใจดีขึ้น ความจำ และสติ ปัญญาดีขึ้น
* ด้านพัฒนาบุคลิกภาพ จะเป็นผู้มีบุคลิกภาพดี มีความมั่นคงทางอารมณ์ หนักแน่น เยือกเย็น
* ด้านชีวิตประจำวัน ช่วยเสริมให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เพราะร่างกายกับจิตใจย่อมไปด้วยกัน
* ด้านศีลธรรมจรรยา จะทำให้เรามีสัมมาทิฏฐิ เชื่อกฎแห่งกรรม เป็นผู้มีความประพฤติดี ปฏิบัติชอบ
ทั้งกายและใจ

     อยากให้ทุกท่านได้มาลองนั่งสมาธิกันดูค่ะ...การนั่งสมาธิเป็นการสั่งสมบุญที่ไม่ต้องใช้เงิน
ความสงบที่เกิดจากภายใน จะยังความสุขสดใสสู่ภายนอก...

วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2559

หลวงพ่อธัมมชโยที่ฉันรู้จัก


   ...หลวงพ่อธัมมชโย ท่านคือพระพ่อผู้ให้อย่างแท้จริง จะเรียกว่าให้ชีวิตใหม่กับดิฉัน ก็ว่าได้
มันเป็นเรื่องจริง ที่ไม่ได้เกินความจริงค่ะ

     ก่อนหน้าที่ดิฉันจะได้มารู้จักวัดพระธรรมกาย ถึงแม้ว่าส่วนหนึ่งของชีวิตดิฉัน คือ ชอบไปวัด
ทำบุญ แต่อีกมุมหนึ่งของชีวิต ในสังคมของคนทำงาน คงไม่มีใครปฏิเสธงานเลี้ยงสังสรรค์รูปแบบต่างๆ ซึ่งก็หนีไม่พ้นพวกเครื่องดื่มที่มึนเมาหลากชนิด แล้วแต่จะสรรหากันมา


     ดิฉันไม่เคย..เรียนรู้ลึกซึ้งถึงหลักของกฏแห่งกรรม ดิฉันไม่ได้เรียนรู้ถึงหลักธรรมคำสอนของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริง ดิฉันเรียนรู้แบบผิวเผิน..รู้น้อยก็คิดว่ารู้มาก บาปในการฆ่าสัตว์เล็ก
สัตว์น้อย เช่นยุง มด ดิฉันไม่เคยหวั่นเกรงในผลของบาป


     จนกระทั่งดิฉันได้มารู้จักวัดพระธรรมกาย และได้ตั้งใจเข้าวัด เพื่อปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง
และได้เรียนรู้ความจริงของชีวิต จากหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยพระเดชพระคุณ
หลวงพ่อธัมมชโย ท่านได้นำธรรมะมาย่อยเป็นหัวข้อธรรมจากยากให้ง่าย ฟังแล้วเข้าใจได้ง่าย
มากกว่าการที่เราต้องอ่านหรือศึกษาเองจากตำรา ทุกอย่างมีที่มาที่ไป ทุกอย่างล้วนมีเหตุผล
รองรับและสามารถพิสูจน์ได้


     ดิฉันเห็นคนบางกลุ่ม ชอบโจมตี ชอบว่ากล่าวจาบจ้วงพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ซึ่งคนกลุ่มนี้
ก็ไม่เคยมาวัด และก็ไม่เคยรู้จักพระเดชพระคุณหลวงพ่อเลย คนกลุ่มนี้ได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง 
ได้รับข้อมูลที่บิดเบือนความจริง


     อยากจะฝากข้อความถึงคนที่ไม่เคยมาวัด และไม่ได้ศึกษาข้อมูลของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
อยากจะให้ทุกท่านลองมาศึกษาข้อมูลความจริงกันค่ะ เพราะการที่เราวิพากษ์วิจารณ์พระรูปหนึ่ง
ที่ท่านบริสุทธิ์บริบูรณ์ในศีลในธรรม มันจะก่อให้เกิดวิบากกรรรมต่อตัวผู้พูดอย่างมากมายเลยทีเดียว
มันไม่คุ้มเลย การเกิด แก่ เจ็บ ตาย โลกนี้ โลกหน้า นั้นมีจริง "สิ่งที่เราไม่เห็น อย่าคิดว่ามันไม่มี"
หลักคำสอนของพระพุทธศาสนานั้นมีมากมาย ถ้าเราได้ศึกษาอย่างละเอียด เราจะมีความเชื่อมั่น
ในกฎแห่งกรรม เพราะแค่คิด พูด หรือกระทำ ล้วนมีวิบากกรรมรองรับทั้งสื้น


     พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ท่านสอนให้ทุกคนรักการทำความดี ให้รักพระพุทธศาสนา
ให้เมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ ไม่ว่าร้ายใคร ตลอดชีวิตในเพศสมณะของท่าน ท่านอุทิศชีวิตเพื่องาน
พระศาสนาทั้งในและต่างประเทศอย่างตลอดต่อเนื่อง

    
     ผลงานที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 46 ปี (2559) ที่ผ่านมา วัดพระธรรมกายได้สร้างวัดไปพร้อม ๆ
กับการสร้างคน คือ สร้างพระภิกษุให้เป็นพระแท้เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา รวมทั้งปลูกฝัง
ศีลธรรมลงในใจของผู้คนทุกเพศทุกวัย ทุกโครงการล้วนเกิดจากดำริของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ


     ผลงานมากมายซึ่งฝากไว้ในพระพุทธศาสนา ซึ่งจะตกทอดไปสู่ลูกหลานของชาวพุทธ ภาพที่
งดงาม ภาพของความดี ภาพแห่งความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาจะคงอยู่คู่แผ่นดินไทย
สืบต่อไป


     ทุกวันนี้ดิฉันมีชีวิตใหม่...ดิฉันรักการสั่งสมบุญ รักการนั่งสมาธิ เกรงกลัวบาปทุกชนิด และพร้อม
ที่จะช่วยเผยแผ่งานพระพุทธศาสนาในส่วนที่ทำได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายในชีวิต ที่เราจะพบครูบาอาจารย์
ที่เปี่ยมไปด้วยความรักและเมตตาต่อชาวโลกได้มากมายขนาดนี้ ยิ่งรู้จัก..ก็ยิ่งเคารพรักท่าน ค่ะ


     อยากเชิญชวนค่ะ..อยากให้ทุกท่านได้มาทำความรู้จักวัดพรธรรมกาย มาเรียนรู้วัฒนธรรม
ชาวพุทธที่แท้จริง มาทำความรู้จักกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ในมุมของความเป็นจริง
..แล้วคุณจะพบคำตอบที่แท้จริงด้วยตัวของคุณเอง







วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2559

บุญที่ฉันปลื้ม



คือ บุญบูชามหาธรรมกายเจดีย์                                      
...ในตอนเช้าของทุกๆ วัน
ดิฉันเริ่มบูชามหาธรรมกายเจดีย์
อย่างสม่ำเสมอหน้าเจดีย์ ตั้งแต่
ปี พ.ศ.2557 ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้
บูชาผ่านหน้าจอ DMC หรือไป
หน้าเจดีย์บ้างเป็นบางคราว












...รู้สึกได้ค่ะว่า ความปลื้มปีติใจต่างกัน        
เราอยู่หน้าเจดีย์ ก้มกราบลงที่หน้าเจดีย์
ได้สัมผัสถึงความเงียบสงบ ซึ่งยังใจ
ของเราให้สงบลงไปด้วย














อยากจะเชิญชวนทุกท่าน ที่อยู่ใกล้วัด    
หรือมีโอกาสมาวัดทุกวัน อยากให้มา
บูชามหาธรรมกายเจดีย์ ซึ่งอานิสงส์
ของการบูชานั้น หาประมาณมิได้












การบูชามหาธรรมกายเจดีย์ใช้เวลา      
เพียงน้อยนิด แต่ผลของการบูชาย่อม
ยิ่งใหญ่ เพราะว่าเราบูชาเนื้อนาบุญ
อันเยี่ยมของโลกผลบุญจึงยิ่งใหญ่มาก
เพราะว่าพระพุทธองค์ ทรงเป็นบุคคล
ที่อจินไตย










วิบาก คือ ผลของกรรมดีที่ได้          
บูชาก็ได้เป็นอจินไตย ที่มีมาใน
พระไตรปิฎกตั้งแต่พระพุทธเจ้า 
พระนามว่า ปทุมมุตระ มีอานิสงส์
ถึงแสนกัปทีเดียว ผลแห่งการ
บูชาพระพุทธเจ้าหรือบูชาเจดีย์
ของพระองค์ ปิดประตูอบายภูมิ
ถึงแสน
กัปทีเดียว

หาโอกาสมากันนะค่ะ...บุญของคุณ
จะเพิ่มขึ้น ความปลื้มปีติจะยังคงเห็น
เป็นภาพภายในใจของเราตลอดไป
..ตราบวันสุดท้ายของชีวิต



วัดพระธรรมกายในมุมมองของฉัน


     วัดพระธรรมกายเป็นวัดแรกในชีวิต ที่ดิฉันรู้สึกพึงพอใจมากที่สุดในการมาวัด ซึ่งโดยปกติแล้ว
ดิฉันเป็นคนชอบทำบุญ ชอบไปวัด ใครชวนไปวัดไหน ถ้าสะดวกก็ไปหมด ซึ่งการมาวัดพระธรรมกาย
ก็เป็นอีก 1 วัดที่มีคนชวนมาเช่นกัน



     วัดพรธรรมกายเป็นวัดที่สะอาด และก็สงบ อาคารสถานที่ทุกอย่างถูกสร้างขึ้นแบบเรียบง่าย
แต่ดูดี มีความแข็งแรงและมั่นคง เน้นการใช้สอยเป็นหลัก ทุกพื้นที่ถูกจัดสรรให้ใช้งานแบบ
ประหยัดสุด ประโยชน์สูง เห็นแล้วทึ่งและชื่นชมกับแนวคิดในการสร้างสถานที่ของวัด



     ในส่วนของผู้ที่อยู่อาศัย ตั้งแต่พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ตลอดจนพนักงานในทุกๆ
ส่วน ทางวัดพรธรรมกายเน้นการสร้างพระให้เป็นพระแท้ สร้างคนให้เป็นคนดี มีการฝึกอบรมอย่าง
เข้มข้นในแต่ละสถานภาพ ตั้งแต่เรื่องการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ ตลอดจนการศึกษา ทางวัดเปิดโอกาส
ให้กับทุกคน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะขวนขวายได้มากน้อยแค่ไหน จะมีองค์กรไหนที่จะมีความเมตตาให้ได้มากมายขนาดนี้



     ในส่วนของงานพระศาสนาตลอด 45 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่ดิฉันเห็น วัดพระธรรมกายสร้างสานงาน
พระศาสนา สร้างโครงการดีๆ มากมาย ให้กับสังคมทั้งในและต่างประเทศ อาทิ โครงการอุปสมบทหมู่ 100,000 รูปทุกหมู่บ้านทั่วไทย, โครงการตักบาตรพระ 2 ล้าน รูป 77 จังหวัด ทุกวัดทั่วไทย, โครงการกฐินสัมฤทธิ์ และโครงการธุดงค์ธรรมชัย เพื่อพัฒนาวัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง เป็นต้น อย่าง
ต่อเนื่องโดยไม่มีเว้นวรรค

     ความยิ่งใหญ่ของวัดพระธรรมกาย ไม่ได้อยู่ที่สถานที่ แต่อยู่ที่ การสร้างคนให้เป็นคนดี แล้วคืน
คนดีกลับสู่สังคม ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะทำได้ แต่อยากจะบอกว่า วัดพระธรรมกายทำได้ ดิฉันขอ
ยกตัวเองเป็นตัวอย่าง เพราะทุกวันนี้ ได้รักษาศีล ๕ เป็นปกติ ได้รู้จักอะไรบุญ อะไรบาป ได้เรียนรู้
หลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้ฝึกฝนตนเอง ให้คิด พูด และกระทำในสิ่งที่ถูกต้อง
และดีงามมากยิ่งขึ้น

     อยากจะบอกด้วยใจว่า ชีวิตเป็นของเรา และเราก็มีสิทธิ์เลือก ที่จะเติมแต่งอะไรให้กับชีวิต
และวันนี้ ดิฉันคิดว่า...ดิฉันเลือกทางเดินที่สว่างให้กับตนเองแล้วค่ะ

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

ท่านมาวัดพระธรรมกายครั้งแรกได้อย่างไร..?



เข้าวัดพระธรรมกายครั้งแรก เพราะมีกัลยาณมิตร

ที่เคารพยิ่ง 2 ท่าน คือ พี่ชายและพี่สาว



        ดิฉัน มาวัดครั้งแรกในช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2549 มากับพี่สาวและหลานสาว ด้วยการ
โดยสารรถบัส ความประทับใจแรกที่รู้สึกปลื้มใจ คือ มีการสวดมนต์ มีการอาราธนาศีล ๕ บนรถ 
มีผู้นำบุญขึ้นมาพูดคุยธรรมะเล็กน้อยเหมือนเป็นการต้อนรับ บรรยากาศอบอุ่นใจ

        เมื่อมาถึงวัด มีน้องอาสาสมัครตัวน้อยๆ มาคอยต้อนรับพร้อมรอยยิ้มใสๆ ...แค่นี้ ดิฉัน
ก็ยิ้มได้แล้ว สำหรับชีวิตของชาวโลกที่ลุยงานหนักมาตลอดทั้งสัปดาห์

        การมาวัดครั้งแรก ดิฉันได้เจอกับพี่ชายและพี่สะใภ้ ถือเป็นโอกาสที่ดี เหมือนเป็นวันรวมญาติ
พี่น้องได้เจอกัน ได้พูดคุยกัน อาหารมื้อเช้าและมื้อเพลของทางวัดเป็นเมนูง่ายๆ มีข้าวและกับ
อยู่ในถุงพลาสติกพร้อมช้อน อาหารไม่เลิศหรู แต่ก็อร่อยและก็อิ่มกำลังดี

        ห้องน้ำ คือ สถานที่ ที่ดิฉันไม่ชอบที่สุดเวลาไปวัด (เพราะส่วนใหญ่จะเจอห้องน้ำที่ไม่ค่อย
สะอาด) แต่...วันนี้ ผิดคาด ดิฉันเข้าห้องน้ำด้วยรอยยิ้มอย่างคนที่มีความสุข ภาพความเป็นระเบียบ
ของรองเท้า ตั้งแต่หน้าห้องน้ำ ตลอดจนภายในห้องน้ำ ทุกอย่างมีระเบียบ สะอาด ดิฉัน..บอกกับ
ตัวเองในใจว่า "นี่แหละใช่เลย..ที่ฉันต้องการ"

        ช่วงบ่ายเดินชมสื่อต่างๆ ที่มีให้เลือกสรรมากมายในแบบที่เราชอบ ดิฉันได้หนังสือติดมือ
กลับบ้านทุกครั้งที่เดินชม เพราะไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือว่าซีดี สื่อเหล่านี้คือโอกาสที่จะทำให้เรา
ได้ศึกษาข้อมูลความเป็นจริงของชีวิต ที่นอกเหนือการฟังจากครูบาอาจารย์

        ตอนเย็นได้บูชาเจดีย์ที่ดูเรียบง่าย แต่งดงามเหลือเกิน และคุณค่าหาประมาณมิได้..มันคือสิ่งมหัศจรรย์สำหรับดิฉัน องค์พระ 1,000,000 องค์ มีด้วยหรือในโลกนี้ และดิฉันก็ไม่ยอมพลาดโอกาส
ในการที่จะสร้างองค์ประจำตัวด้วยเช่นกัน "บุญใหญ่แบบนี้ต้องรีบทำ ก่อนที่จะหมดโอกาส"

        นับจากวันแรกที่มา...หลังจากนั้น ดิฉันก็มาวัดทุกวันอาทิตย์ ไม่เคยขาด บางครั้งงานบุญใหญ่ 
กว่าจะกลับถึงบ้าน 5 ทุ่ม หรือไม่ก็เที่ยงคืน เช้าวันรุ่งขึ้นต้องทำงานตามปกติ แต่ตื่นเช้ามา ความ
เหนื่อยล้าหายเป็นปลิดทิ้ง มีแต่ความปลื้มปีติใจ ที่ยังคงอยู่ในใจ..มิลืมเลือน

        โอกาสดีๆ ในชีวิตไม่ได้มีเข้ามาหาเราทุกวัน หากดิฉันปฏิเสธคำชวนของพี่ชายและพี่สาว 
ดิฉันก็คงไม่มีโอกาสได้จักวัดพระธรรมกาย ไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ถึงหลักธรรมคำสอนของพระสัมมา
สัมพุทธเจ้าที่ครูบาอาจารย์ ท่านนำสอนเหล่าศิษยานุศิษย์ด้วยความรักและเมตตา


" จากวันนั้น..ถึงวันนี้ อยากบอกว่า รักวัดพระธรรมกาย และก็ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนใจ
แล้วคุณหล่ะ...ลองมาพิสูจน์ดูสิค่ะ "